top of page

รีวิว DIY Wedding Studio เอง

สวัสดีคครับ วันนี้ผมจะมารีวิวการออกแบบ และสร้างWedding Studiof ด้วยตัวเอง


เริ่มจากการที่ผมกับแฟน ได้ทำร้านเวดดิ้ง เป็นร้านเวดดิ้ง ที่บริการลูกค้าเหมือนกับงานแต่งงานของเราเอง บริการชุดแต่งงาน แต่งหน้าโดยแฟนผมเป็นช่างแต่งหน้าครับ(Ribbint Makeup-Hair) และถ่ายภาพพรีเวดดิ้งโดยผมเป็นช่างภาพเอง(MPhoto) ชื่อร้านว่า OURS Wedding Studio

เริ่มจากการที่ทำร้านในบ้านของตัวเองครับ เป็นทาวน์โฮม โดยไม่จำเป็นต้องมีร้านที่ใหญ่ ราคาแพง หรือไปเช่าอาคารพานิชย์ริมถนน

ที่ต้องมีค่าใช้จ่ายสูง เน้นไอเดียในการถ่าย และชุดที่เข้ากับเทรนด์ของเจ้าบ่าวและเจ้าสาว ผมเป็นคนดูแลเรื่องการตลาดออนไลน์ รูปแบบภาพ และภาพลักษณ์ของร้าน ส่วนริบบิ้น จะดูเรื่องของงาน Makeup และชุดที่จะซื้อเข้ามาในร้าน


ผ่านไปสามปีกว่า ค่อนร้านข้างจะโตพอสมควร จากเริ่มแรกมีชุดแค่ 20ชุด เพิ่มมาเป็นมากกว่า100ชุด อุปกรณ์ถ่ายภาพที่เพิ่มมากขึ้น และไอเดียในการถ่ายค่อนข้างจำกัด เราเลยเริ่มวางแผนที่จะทำร้านขึ้นใหม่ ที่ตอบโจทย์ทั้งชุดแต่งงาน และงานถ่ายภาพมากขึ้น


เริ่มแรก เราก็มีหลายตัวเลือกมากครับ ไม่ว่าจะเป็นการไปซื้อบ้านมือสอง แล้วรีโนเวท(กู้เงิน) หรือซื้อที่ดินเปล่าแล้วนำที่ดินเข้าธนาคาร หรือ สร้างบนที่ดินของพ่อ-แม่


การที่จะไปซื้อที่ หรือ ซื้อบ้านมือสอง ข้อดีคือ เราสามารถเลือกโลเคชั่นได้ ข้อเสียคือ ต้องเป็นหนี้ค่อนข้างเยอะ

การที่จะสร้างในที่ตัวเอง แน่นอนเลยประหยัด และเริ่มได้ทันที แต่ข้อเสียคือ เราไม่สามารถเลือกโลเคชั่นได้


สุดท้ายเราตัดสินใจที่จะเลือกที่ทำที่ดินของพ่อ-แม่ เพราะเราคิดว่าข้อเสียที่เกิดขึ้นเรื่องโลเคชั่น เราสามารถแก้ไขด้วยการใช้ google map เข้ามาช่วย และการทำการตลาดออนไลน์ต่างๆ


การออกแบบ

ต้องออกตัวก่อนนะครับว่า เราไม่ได้เป็นนักออกแบบมืออาชีพ บางอย่างเราก็เอาไอเดียเราไปปรึกษาเพื่อนๆบ้าง ความคิดเราเองบ้าง และเราต้องการจะประหยัดงบจึงเลือกที่จะออกแบบด้วยตัวเอง


เราอยากได้รูปทรงมินิมอลล์ ดุแล้วไม่เบื่อง่าย เน้นพื้นที่โล่ง สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานได้ตลอดเวลา

จึงออกแบบให้มีพื้นที่สามส่วน คือ

ส่วนหน้า ขนาด 6x6 เมตร เป็นส่วนของชุดแต่งงาน รับลูกค้า ลองชุดแต่งงาน

ส่วนกลาง จะเป็นทางเชื่อมไปสตูถ่ายภาพ มีห้องน้ำขนาดเล็กๆ และเอาไว้เก็บอุปกรณ์ต่างๆ รวมทั้งเครื่องใช้สำนักงาน

ส่วนหลัง จะเป็นส่วนของสตูถ่ายภาพ เราได้ออกแบบให้มีมุมถ่ายต่างๆหลากหลาย และสามารถเข้าได้จากด้านหลัง เผื่อว่ามีคนมาขอใช้สตูฯ จะสามารถเข้าสตูฯได้โดยไม่ต้องผ่านโซนชุดแต่งงาน


การก่อสร้าง

หลังจากได้แบบเรียบร้อย เราก็เริ่มหาทีมงานมาก่อสร้างครับ มีทั้งในรูปแบบบริษัท และรูปแบบของช่างรับเหมา ข้อดีของบริษัทคือ เราไว้ใจได้เลยครับ จ่ายเงินอย่างเดียว แต่ราคาค่อนข้างแพง

ผมจึงไปหาช่างมาทำเองครับ ราคาต่ำกว่ากันเกือบครึ่ง แต่ก็แลกมากับความปวดหัวนิดหน่อย และความเนี๊ยบของงาน ซึ่งผมคิดว่าเราสามารถบริหารจัดการส่วนนี้ได้ครับ





การก่อสร้างอาคาร จะเป็นสัญญาของช่างผู้รับเหมา และบางส่วนผมก็DIY ด้วยตัวเองเลยครับ ซื้อเครื่องเชื่อมมาทำประตูรั้วเอง ต่อไฟเอง ทีสีเองบางส่วน และเก็บงานบางส่วนเองครับ เพราะว่าช่างที่จ้างมา ใช้เวลาทำค่อนข้างช้า และช่วงหลังเริ่มมีปัญหาในการบริหารจัดการการเงินของช่างเองครับ ผมจึงเลือกให้ช่างทำในส่วนที่ผมทำเองไม่ได้ และจบงานกันเลยครับ






ปัญหาที่พบระหว่างก่อสร้าง ด้วยความที่ฝีมือของช่างไม่มีความเนี๊ยบและไม่ได้เชี่ยวชาญพอสมควร ทำให้ตอนติดตั้งวงกบกระจก และกระจกที่สั่งมาขนาด 2x4 เมตร ใส่ได้ไม่ลงกับวงกบ จึงต้องเสียเวลาในการแก้ไข แต่สุดท้ายก็แก้ไขสำเร็จ









ค่าใช้จ่ายที่ไม่ได้วางแผนไว้ ในการทำสตูฯครั้งนี้เราได้เตรียมเงินสดไว้ เพื่อการก่อสร้าง โดยที่เราใช้เงินเก็บของเรา แทนที่จะกู้เงินครับ แต่ก็มีค่าใช้จ่า ยเพิ่มเติมที่ไม่ได้วางแผนไว้ เช่นต้นไม้ สีที่เราเพิ่มเสปคขึ้นมา ประตูไม้สัก ที่จอดรถ แต่ยังพอทำให้เสร็จได้ครับ



โดยบางอย่างก็ใช้วัสดุทดแทน เช่นพื้นเราก็ใช้แผ่นคอนกรีตสำเร็จรูป และหินกรวด แล้วมาเล่นกับการจัดวาง ก็ทำให้ดูน่าสนใจมากขึ้น





ใช้เวลาก่อสร้างและตกแต่งพร้อมใช้งานประมาณสามเดือนครึ่ง

งบประมาณในการก่อสร้างประมาณ 6 แสนบาท

ส่วนตกแต่ง เฟอร์นิเจอร์ สวนภายนอก และอื่นๆ ประมาณ 2 แสนบาท


เราภูมิใจที่ OURS สามารถโตขึ้นมาจากทาวน์โฮมเล็ก จนมาเป็น OURSรูปแบบใหม่ ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น สามารถสร้างสรรค์ผลงาน และบริการให้กับลูกค้าได้อย่างเต็มที่


สุดท้ายนี้ OURS ต้องขอกราบขอบพระคุณลูกค้าทุกท่านที่ให้ความไว้วางใจ ให้เราได้เป็นส่วนหนึ่งในวันสำคัญที่สุดวันหนึ่งในชีวิต เราจะทำให้ดีที่สุด ใส่ใจลูกค้าทุกท่านเหมือนกับเป็นงานแต่งงานของเราเอง


Your wedding is "OURS"

story by MPhoto






Comments


bottom of page